บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

สะกดจิตย้อนอดีต

ผมได้อ่านพบในคลังกระทู้ของพันธุ์ทิพย์ชื่อ “สะกดจิตย้อนอดีต (Regression Therapy)” ซึ่งนำมาตั้งเป็นกระทู้โดยคุณ “ว่างจริงหนอ”  ผมเห็นว่าเป็นประเด็นที่ควรนำมาศึกษาและวิพากษ์วิจารณ์ก็เลยมาเขียนบทความนี้ขึ้น

การบำบัดรักษาด้วยวิธีการสะกดจิตย้อนอดีต (Regression Therapy or Age-regression Therapy) เป็นการสะกดจิตบำบัดแขนงหนึ่ง ที่ได้ผลดี

นักจิตวิทยาที่นิยมใช้เทคนิควิธีนี้ บางคนเรียกตนเองว่าเป็น นักอดีตบำบัด (Regression Therapist)

การบำบัดด้วยการสะกดจิตย้อนอดีต คือ การที่นักบำบัด (Practitioner) นำผู้รับการบำบัด (Subject) ย้อนกลับไปในอดีตของตนเอง เพื่อหาต้นเหตุของปัญหา

สิ่งที่นักจิตวิทยาคนพบก็คือ เมื่อมนุษย์ได้กลับไปมีประสบการณ์ซ้ำ (Re-experiencing or Re-living) ในต้นเหตุของปัญหาแล้ว อาการในปัจจุบันของปัญหานั้น จะลดลงไปและหายไปเอง

ในปัจจุบันนี้ มีการนำเทคนิคการรักษาแบบนี้ไปใช้อย่างกว้างขวาง และได้รับการพัฒนาต่อไป เทคนิคการสะกดจิตระลึกชาติบำบัด (Past-life Regression Therapy) ก็คือการพัฒนาต่อยอดจากการสะกดจิตย้อนอดีตนี้

นักจิตวิทยาที่ใช้เทคนิคการสะกดจิตระลึกชาติบำบัดจะเรียกว่า นักอดีตชาติบำบัด (Past-life Therapist) ตัวอย่างของนักอดีตชาติบำบัดที่มีชื่อเสียงในปัจจุบันได้แก่ ดร.ไบรอัน แอล ไวส์ (Dr. Brian L. Weiss, MD) ผู้เขียนหนังสือ เราจะข้ามเวลามาพบกัน (ONLY LOVE IS REAL) อันโด่งดัง ฯลฯ

การทำอดีตชาติบำบัด (Past-life Therapy) ยังไม่ได้การยอมรับจากนักจิตวิทยาสาขาอื่นๆ รวมทั้งนักวิชาการ หรือนักวิทยาศาสตร์สาขาอื่นๆ แต่นักจิตวิทยา เช่น  ดร.ไบรอัน ไวส์ ท่านก็ยังพูดเสมอว่า ที่ตนเองทำนั้น ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ (scientific method) อย่างถูกต้อง

ในตอนท้ายของกระทู้ มีการโฆษณาด้วย ดังนี้

ศูนย์จินตบำบัดอัลฟ่าริชได้รวมเทคนิคการสะกดจิตย้อนอดีต (Age-regression Therapy) และเทคนิคอดีตชาติบำบัด (Past-life Therapy) ไว้ในหลักสูตรฝึกอบรมสะกดจิตบำบัดขั้นสูง (Advanced Hypnosis Course) ด้วย

http://www.alpharich.net/Regression_Therapy.htm [ลิงก์ตายไปแล้ว]

คุณ kongsilp 2000 เข้ามาแสดงความไม่เห็นด้วยในบางกรณี ดังนี้


He is the author of eight books, including the best-selling Many Lives, Many Masters. His newest book, Same Soul, Many Bodies, expands the scope of regression therapy into future lives and the Earth's future. brianweiss.com

Carole K. Weiss, MSW, has worked with her husband since 1981 and has been co-teaching with him since 1995.

Past-Life Therapy Training
October 19, 2008 - October 24, 2008 Rhinebeck Campus: Rhinebeck, NY (US)
Tuition: $900

ค่าเรียน หลักสูตร 19 ตุลาคม ถึง 24 ตุลาคม รวม 6 วันที่นิวยอร์ค คือ 900 ดอลล่าร์อเมริกันหรือประมาณ 30,000 บาท (ไม่รวมค่าเครื่องบินจากกรุงเทพไปกลับ ค่าเดินทางในประเทศค่าที่พักค่าอาหารอีกประมาณ 150,000 บาท)

ใครสนใจจะไปเรียนก็ต้องเตรียมจ่าย 180,000 หรือวันละ 30,000 บาท

ซึ่งถ้าท่านไปฝึกสมาธิและวิปัสสนากับสำนักที่เชื่อถือได้ในประเทศไทย ท่านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลยและได้ผลดีกว่าและปลอดภัยกว่าการเรียนและฝึกแบบนี้มาก

ความเห็นของคุณ kongsilp 2000 ผมเห็นด้วยเต็มที่ และความจริงก็เป็นอย่างนั้น  การสะกดจิตของนักจิตวิทยานั้น  คล้ายกับวิชา “ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ” ในวิชชา 3 ของศาสนาพุทธมาก

คือ วิธีการก็คล้ายกัน เทคนิควิธีก็คล้ายกัน ผลก็คล้ายๆ กัน แต่ที่ไม่คล้ายกันก็คือ ในทางศาสนาพุทธ คนปฏิบัตินั้น กิเลสลดลงมากแล้ว

การไปเห็นอดีตก็เห็นระหว่างการปฏิบัติธรรม ไปเจอเหตุการณ์อะไรก็คงปลงมากแล้ว  ผลร้ายจึงไม่มี

ในการทำอดีตชาติบำบัด (Past-life Therapy) สมมุติว่า คนไข้ถูกฆ่าตายโดยชายคนหนึ่ง พอสะกดจิตแล้ว กิเลสยังไม่เบาบางลง ไปหาทางแก้แค้นและฆ่าคนที่ฆ่าตัวเขาในชาติที่แล้ว จะเกิดอะไรขึ้น

ผมว่าเหตุการณ์อย่างนี้ก็ต้องมีบ้าง และน่าจะมีเยอะด้วย  แต่ดร.ไบรอัน ไวส์ คงไม่กล้าเขียนลงหนังสือ..

สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อให้เห็นในบทความชุดนี้ก็คือ วิทยาศาสตร์สาขานี้ ยอมรับว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง (โดยบังเอิญ ซึ่งจะได้กล่าวถึงต่อไปข้างหน้า)

อย่างไรก็ดี  ผมไม่เห็นด้วยกับคนที่จะไปฝึกสะกดจิตไม่ว่าที่เป็นที่ไหนๆ ก็ตาม  เนื่องจากปัจจุบันนี้ ในเมืองไทยก็เริ่มการคอร์สการอบรมแบบนี้มากขึ้น  เสียเงินมากเช่นเดียวกัน

การสะกดจิตนั้น ถ้าพิจารณากันในแง่ทางวิชาการ ดูเหมือนว่าจะมีแต่เพียงประโยชน์ ไม่มีข้อเสียเลยนั้น  ผมว่าไม่จริงทั้งหมด 

ข้อเสียนั้นมีแน่ๆ แต่พวกนักจิตบำบัดพวกนี้ไม่บอกออกมาเท่านั้น

แต่สิ่งที่เป็นข้อที่น่ากลัวในทางศาสนาก็คือ การสะกดจิตนั้น เป็นการเอาใจส่งออกนอกตัวแบบหนึ่ง ตายไปแล้ว ไม่แคล้วอบายภูมิ

ก็ในเมื่อ สมถะกรรมฐาน-วิปัสสนากรรมฐานของเราก็ดีอยู่แล้ว จะไปทะลึ่งหัดสะกดจิต เรียนสะกดจิตให้ตกนรกไปทำไม





1 ความคิดเห็น:

  1. regression therapy ภายหลังไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะจะทำให้ความจำของคนไข้เกิดความสับสน

    ตอบลบ